คอกาแฟควรรู้ มีเครื่องชงกาแฟสดไว้ที่บ้านดีอย่างไร
เครื่องชงกาแฟสดมีที่มาอย่างไร
เครื่องชงกาแฟสด หรือที่เห็นตามร้านกาแฟทั่วไป คือ เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ (Espresso Machine) ที่มาจากภาษาอิตาลี แปลว่า บีดอัดออกมา หรือคั้นออกมา ซึ่งได้มาจากกรรมวิธีการสกัดกาแฟจากเครื่องชง โดยใช้แรงดันไอน้ำในหม้อต้มบีบอัดน้ำร้อนให้ไหลผ่านเมล็ดกาแฟที่บดละเอียดอย่างรวดเร็ว สกัดออกมาเป็นกาแฟที่ประกอบไปด้วยชั้นครีม (Crema) และตัวกาแฟนั่นเอง โดยกรรมวิธีที่เกิดขึ้นในเครื่องชงกาแฟสดนี้ จะทำให้รสชาติกาแฟที่ได้ ถูกดึงออกมาได้อย่างเต็มที่จากการอาศัยแรงดันในการสกัด ซึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถของเครื่องชงกาแฟ และเทคนิคในการบดเป็นสำคัญ
5 เหตุผลที่ควรมีเครื่องชงกาแฟสดไว้ที่บ้าน
หากใครที่กำลังลังเลอยู่ว่า ควรมีเครื่องชงกาแฟสดไว้ที่บ้านหรือไม่ นี่เป็น 5 เหตุผลที่จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแน่นอน
- สร้างสรรค์เมนูกาแฟและรสชาติตามที่ชอบ
เพราะการมีเครื่องชงกาแฟสดไว้ที่บ้าน จะทำให้คุณสามารถเริ่มต้นเลือกลักษณะของรสชาติกาแฟที่ต้องการได้ตั้งแต่การเลือกประเภทของเมล็ดกาแฟ การปรับความละเอียดของเมล็ดกาแฟที่บดได้จากเครื่องบด ตลอดไปจนถึงจำนวน Shot ที่สกัดได้จากเครื่อง ตัวแปรที่แตกต่างกันเหล่านี้ จะส่งผลให้รสชาติกาแฟออกมาแตกต่างกัน และคุณจะสามารถสร้างสรรค์ได้ด้วยตัวเอง - ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดื่มกาแฟ
ถึงแม้การมีเครื่องชงกาแฟสดที่บ้าน จะต้องลงทุนในการซื้อเครื่องก็จริง แต่ในปัจจุบัน เครื่องชงกาแฟสดมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ด้วยระดับราคาแตกต่างกันออกไปตามระดับความสามารถในการทำงาน เริ่มต้นที่หลักพัน และเมื่อลงทุนในการซื้อแล้ว 1 ครั้ง หากคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อครั้งก็ยังถือว่าถูกกว่าการซื้อกาแฟดื่มตามร้านกาแฟอยู่มาก - เพิ่มงานอดิเรก
สำหรับคอกาแฟที่หลงใหลในศาสตร์ของกาแฟ และต้องการศึกษารายละเอียดถึงกรรมวิธีในการชงกาแฟมากขึ้น เพื่อให้ได้รสชาติและสูตรกาแฟที่แตกต่างกัน การมีเครื่องทำกาแฟจะช่วยให้เราได้ทดลอง ปรับเปลี่ยนรสชาติให้สอดคล้องกับความต้องการและความสนใจของเราได้ - เป็นช่องทางการหารายได้
ถึงแม้เครื่องชงกาแฟที่ซื้อมาจะมีเพื่อตอบสนองสุนทรียภาพในการดื่มกาแฟเท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่า เมนูที่คุณสร้างสรรค์ขึ้นมา และรสชาติของกาแฟที่เกิดจากการชงอย่างชำนาญ อาจนำไปสู่วิธีการสร้างรายได้จากการขายกาแฟก็เป็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน แค่มีบริการขนส่งเดลิเวอรี่ต่างๆ คุณก็เปิดร้านกาแฟได้เช่นกัน - เป็นการใช้เวลากับคนในครอบครัว
การดื่มกาแฟนับเป็นกิจกรรมอย่างนึงที่ทำให้คนในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน นอกจากนี้การได้ชงกาแฟด้วยตัวเองจากเครื่องชงกาแฟที่มีอยู่ที่บ้าน ยิ่งเป็นการเพิ่มกิจกรรมร่วมกันกับคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดีจากการเรียนรู้ศาสตร์และศิลปะของการชงกาแฟนั่นเอง
หลักการเลือกเครื่องชงกาแฟสด
เมื่อได้เห็นถึงข้อดีของการมีเครื่องชงกาแฟสดไว้ที่บ้านแล้ว ขั้นต่อไปคือการมองหาเครื่องชงกาแฟสักเครื่อง โดยสามารถพิจารณาเลือกเครื่องชงกาแฟได้จากหลักการนี้
- งบประมาณ
เนื่องจากเครื่องชงกาแฟสดแบบเอสเปรสโซในตลาดมีให้เลือกหลายระดับราคาขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้งาน ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น และสามารถสูงได้ถึงหลักแสนในกรณีเครื่องชงขนาดใหญ่สำหรับร้านกาแฟ การตั้งงบประมาณจึงเป็นสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อตัดสินใจซื้อเครื่องชงกาแฟ โดยสามารถกำหนดให้สอดคล้องกับขนาดของเครื่องที่ต้องการ และความถี่ในการใช้งาน - จำนวนหัวชงและขนาดด้ามชง
หัวชง (Brew Group) คือหัวสำหรับจ่ายน้ำร้อนจากเครื่องเมื่อบาริสต้านำด้ามชง (Portafilter) สวมเข้าล็อค น้ำร้อนจะถูกจ่ายผ่านหัวชงมายังด้ามชงและกระจายผ่านผงกาแฟสู่แก้ว หากพิจารณาแล้วว่าเป็นการใช้งานภายในครอบครัว จำนวนหัวชง 1 หัวก็ถือว่าเพียงพอ นอกจากนี้ขนาดของด้ามชงเองก็มีความสำคัญต่อรสชาติกาแฟ ซึ่งด้ามชงกาแฟที่ดีควรมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 57 มม. ขึ้นไป และด้ามชงกาแฟขนาด 58 มม. เป็นด้ามชงที่หาอะไหล่ได้ง่ายกว่าขนาดอื่นๆ - หม้อต้ม
จัดเป็นส่วนประกอบหลักสำหรับเครื่องชงกาแฟสดที่สำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากหม้อต้มจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ต้มน้ำร้อนสำหรับชงกาแฟ โดยอุณหภูมิของน้ำร้อนที่ต้มได้สามารถส่งผลถึงความแตกต่างของรสชาติกาแฟได้เลยทีเดียว นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า หม้อต้มที่ดีควรมีระบบควบคุมอุณหภูมิความร้อนของน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การเลือกเครื่องชงกาแฟที่มีเทอร์โมมิเตอร์เพื่อวัดระดับอุณหภูมิและสามารถควบคุมอุณหภูมิให้มีความสม่ำเสมอได้จึงเป็นผลดีต่อการชงกาแฟ - ปั๊มน้ำ
เนื่องจากกระบวนการชงกาแฟด้วยเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซเป็นการใช้หลักการสกัดด้วยน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟที่บดละเอียดและอัดแน่น การจ่ายน้ำร้อนจากหม้อต้มมายังหัวชงจึงจำเป็นต้องใช้แรงดันจากปั๊มน้ำเป็นตัวพาไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เครื่องชงกาแฟจะบอกสเปคของความดันในหน่วยบาร์มาด้วยเสมอ และจากการพิสูจน์พบว่า แรงดันที่เหมาะสมสำหรับการสกัดกาแฟจะอยู่ที่ 9 บาร์ สำหรับเครื่องชงขนาดใหญ่ แต่สำหรับเครื่องชงกาแฟขนาดเล็กที่ใช้ในบ้าน มักจะใช้แรงดันที่สูงในระดับ 15 หรือ 18 บาร์ นั่นก็เป็นเพราะว่าหากเป็นเครื่องชงขนาดเล็ก จะมีโอกาสสูญเสียแรงดันระหว่างปั๊มและหัวชงนั่นเอง - เลือกจากความน่าเชื่อถือ วัสดุ และบริการหลังการขาย
เป็นอีกหนึ่งข้อที่ควรพิจารณานอกเหนือไปจากคุณสมบัติและลักษณะการทำงาน เนื่องจากเครื่องชงกาแฟจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ จะสามารถการันตีคุณภาพของวัสดุและความทนทานของตัวเครื่องได้ นอกจากนี้บริการหลังการขายที่ดี อย่างเช่นการรับประกันตัวเครื่อง ก็เป็นอีกส่วนที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟเช่นกัน
คุณสมบัติที่ดีที่เครื่องชงกาแฟสดที่ใช้ในบ้านควรมี
กรณีเครื่องชงกาแฟสดที่ใช้ที่บ้าน หรือ Home use อาจจะไม่ได้ต้องการความสามารถในการชงกาแฟแบบที่เครื่อง Commercial ต้องมีด้วยความถี่และปริมาณที่ใช้ไม่เหมือนกัน แต่หลักๆ แล้วเครื่องชงกาแฟ Home Use ควรมีคุณสมบัติเหล่านี้
- ขนาดกะทัดรัด ดีไซน์สวย เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องชงกาแฟแล้ว ยังสามารถเป็นของแต่งบ้านได้อีกด้วย
- ทำกาแฟสะดวกเพียงแค่กดปุ่ม โดยปุ่มที่ให้มาสามารถบอกฟังก์ชันการทำงานที่ชัดเจนไม่ซับซ้อน
- มีแรงดันไอน้ำ 15 หรือ 18 บาร์ ที่เหมาะสมกับเครื่อง Home use เพื่อป้องกันการสูญเสียแรงดันระหว่างหม้อต้มและหัวชง
- มีเทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดอุณหภูมิ ป้องกันอุณหภูมิที่ร้อนเกินไปและความดันที่สูงเกินไป
- ฟังก์ชั่นการปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน ป้องกันการลืมปิดเครื่องแล้วเกิดอันตรายได้
ถึงอย่างไรก็ตาม คงไม่มีเครื่องชงกาแฟเครื่องไหนที่สามารถการันตีได้ว่าจะชงกาแฟออกมาได้ดีที่สุด แต่เราสามารถเลือกเครื่องชงกาแฟให้เหมาะสมตามความต้องการและลักษณะการใช้งานของเราได้ตามที่กล่าวไปด้านบน ซึ่งหากคุณกำลังมองหาคุณสมบัติของเครื่องชงกาแฟสดสำหรับใช้งานในบ้านตามลิสต์ดังที่กล่าวไปด้านบนแล้ว แนะนำว่าเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซจาก เลเบนส์สติล โคลเลคชั่น (Lebensstil Kollektion) จะตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างครบถ้วนแน่นอน